เที่ยวเดือนมีนาคม ต้อนรับลมร้อนกับที่สวยๆในเมืองไทย

เมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคม ลมร้อนเริ่มพัดมาแล้ว ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อนในเดือนหน้า สำหรับใครที่มองหาสถานที่พักผ่อนหลบร้อน ในเดือนนี้เราก็มีสถานที่ เที่ยวเดือนมีนาคม มีทั้งงานเทศกาลน่าสนใจ ทะเล ภูเขา มาแนะนำกัน ว่าจะสวยหรือน่าสนใจขนาดไหนได้ดูกัน

แนะนำใครที่กำลังมองหาที่ เที่ยวเดือนมีนาคม พักผ่อนหย่อนใจ ต้อนรับลมร้อนสบายๆ

1. เทศกาลว่าวนานาชาติ เดินเล่นริมหาด เคล้าเสียงดนตรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

เทศกาลว่าวนานาชาติ 2018

วันที่ 23-25 มีนาคมนี้ น่านฟ้าหัวหินจะถูกแต่งแต้มด้วยว่าวหลากสีสัน หลายรูปทรง นับ 100 ชนิด ใน เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชมการเล่นว่าวกลางคืนประกอบเสียงดนตรี และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจาก เทศกาลว่าวนานาชาติ แล้ว หัวหิน ยังมีที่กินที่เที่ยว ที่รอให้เราไปเช็คอินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นนอนชิลล์บนเก้าอี้ผ้าใบริมหาด ชมความยิ่งใหญ่วีรกษัตริย์ไทย 7 พระองค์ ที่อุทยานราชภักดิ์ หรือเลือกลั้ลลากับคาเฟ่ริมทะเล ที่ให้เราอิ่มอร่อยท่ามกลางลมเย็นๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร 0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854,0 3251 3898

2. “เปิดโลกทะเลชุมพร” ชมความสวยงามใต้ท้องทะเล จ.ชุมพร

งานเปิดโลกทะเลชุมพร 2561

ชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งป่าเขียวและหมู่เกาะมากมายกว่า 44 เกาะ ให้เราได้ดื่มด่ำความงามของโลกท้องทะเลอ่าวไทย แหวกว่ายชมปะการังสีสวยที่ยังคงอุดมสมบูรณ์

นอกจากการมาเที่ยวในเดือนมีนาคม จะปลอดมรสุมและพายุฝนแล้ว ยังมีการจัดงาน เปิดโลกทะเลชุมพร ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2561 พบกิจกรรมในงานมากมาย เช่น การแข่งขันตกปลา วิ่งขึ้นเขามัทรี จักรยานแรลลี่ ฟุตบอลชายหาด นิทรรศการรังนก นิทรรศการสัตว์ทะเลมีชีวิต กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ การประกวดภาพถ่าย และอิ่มอร่อยแบบฟรีๆ!! กับอาหารทะเลปิ้งย่าง และอาหารทะเลสดจำนวนมากกว่า 1,000 กิโลกรัม พร้อมจำหน่ายแพคเกจทัวร์ทะเลชุมพรในราคาประหยัดแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก เปิดโลกทะเลชุมพร Chumphon Marine Festival

3. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

 

สะพานมอญ สะพานอุตตมานุสรณ์

อำเภอสังขละบุรี เป็นอำเภอที่อยู่ติดชายแดนประเทศเมียนมา เป็นพื้นที่ป่าเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และยังมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทย-มอญ ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย สถานที่ที่สำคัญคือ “สะพานไม้อุตตมานุสรณ์” (สะพานมอญ) สะพานที่เชื่อมความสัมพันธ์ของหมู่บ้านไทยและหมู่บ้านมอญไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังมีวัดวังก์วิเวการามทั้งเก่าและใหม่ อันเป็นสถานที่ที่พระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะ เคยพำนักตั้งอยู่ที่นี่ นักท่องเที่ยวที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจึงสามารถไปเที่ยวเยี่ยมชมได้

นอกจากนี้สังขละบุรียังมีทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ไปเที่ยวชมอีกมากมาย ใครอยากพักผ่อนชาร์จพลังงานแบบเต็ม ๆ อยากจะหนีไอร้อนในกรุงเทพฯ มาพักผ่อน บอกเลยว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้น ๆ เลยล่ะ

4. สวนทุเรียนแลนด์ จังหวัดจันทบุรี

 

สวนทุเรียนแลนด์ จังหวัดจันทบุรี

สวนทุเรียนแลนด์ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนและมังคุดจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถรางชมสวนทุเรียน และได้ขึ้นไปบนภูเขาพระแม่จันท์อันเป็นที่ประดิษฐานของรูปหล่อพระแม่ธรณีบีบมวยผมองค์ใหญ่ สูงกว่า 18 เมตร

โดยด้านบนนั้นก็จะสามารถชมวิวสวนทุเรียนได้กว้างไกล 360 องศา และในอนาคตก็จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้ได้มาเที่ยวกันด้วย สวนทุเรียนแลนด์เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-19.30 น. มีรถรางให้บริการตลอด ค่าบริการรถรางคนละ 40 บาท เด็กสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตร ไม่คิดค่าบริการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สวนทุเรียนแลนด์ จันทบุรี

5. เกาะขาม จังหวัดตราด 

เกาะขาม จ.ตราด

เกาะขาม เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวตราดที่ห้ามพลาด ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แต่ก็มีธรรมชาติของท้องทะเลที่สวยงามไม่แพ้ทะเลที่ไหนเลยล่ะ เกาะขามจะตั้งอยู่ใกล้กับเกาะหมาก บนเกาะจะมีหาดเล็ก ๆ ทรายขาวละเอียดให้ได้ไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจระหว่างวัน น้ำทะเลรอบ ๆ เกาะก็จะเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส มีแนวหินภูเขาไฟสีดำให้ได้ถ่ายรูปชิค ๆ กันแบบเพลิน ๆ บนเกาะขามไม่มีที่พัก นักท่องเที่ยวสามารถพักได้ที่เกาะหมาก แล้วข้ามมาเที่ยวยังเกาะขาม มีบาร์น้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวให้บริการพอกระชุ่มกระชวยหัวใจ และเสียค่าบริการขึ้นเกาะเล็กน้อย

6. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เที่ยววังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

อำเภอวังน้ำเขียว เป็นอำเภอที่มีธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะแก่การไปรับลมเย็น ๆ ในช่วงเดือนมีนาคมก่อนที่จะเข้าสู่หน้าร้อน แหล่งท่องเที่ยวก็มีให้ไปเที่ยวชมหลากหลายแบบ ถ้าชอบดอกไม้ก็ไปชิลกันที่ฟ้าประทาน ฟลอร่า พาร์ค, The Little Garden หรือสวนภูมิพฤกษา ถ้าอยากชมแกะ แวะถ่ายรูปกับบรรยากาศแบบยุโรปก็ไปเที่ยวที่มอนทาน่า ฟาร์ม หรือ A Cup of Love ส่วนถ้าใครอยากสัมผัสไร่องุ่นแบบอิตาลี ก็ไปเที่ยวกันที่วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่

นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยววังน้ำเขียวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ อาทิ สวนองุ่นพันเก้า, น้ำตกสวนห้อม, ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน, สวนลุงไกร, เขาแผงม้า, เขาแผงม้า ออร์คิด, วังน้ำเขียวฟาร์ม, ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าเขาภูหลวง, รักจังเมล่อนฟาร์ม, น้ำตกม่านฟ้า, อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง เป็นต้น

7. เกาะปอดะ จังหวัดกระบี่ 

เกาะปอดะ จังหวัดกระบี่

ช่วงเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการเที่ยวทะเลทางฝั่งอันดามัน เพราะไม่มีฝน คลื่นลมไม่แรง ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลก็ใสไม่ขุ่น เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ทะเลสวยสุด ๆ ไปเลย เกาะปอดะก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันที่ไม่อยากให้พลาด อยู่ห่างจากอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสสวยงามจนเกินบรรยาย นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ทะเลแหวก จะมีสันทรายโผล่ขึ้นมาในช่วงน้ำลง เชื่อมต่อระหว่าง 3 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในบริเวณเดียวกับเกาะปอดะ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราแนะนำ เที่ยวเดือนมีนาคมเท่านั้น เมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ภูเขา ทะเล ทุ่งดอกไม้ และประเพณีเทศกาลที่พร้อมให้คุณได้ไปสัมผัสอีกมากมาย แล้วคุณจะรออะไรล่ะ เมืองไทยยังรอและพร้อมต้อนรับ ออกไปเที่ยวเมืองไทยกัน